เหรียญสังฆาฏิ เจ้าคุณนรฯ พิมพ์ใหญ่ เนื้อทองคำ

     เหรียญสังฆาฏิพิมพ์ใหญ่ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพมหานคร หรือเรียกกันว่า เหรียญนักกล้าม ตามลักษณะของเหรียญที่มีความคมชัด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นแขนเห็นกล้ามอย่างเด่นชัด ลักษณะเป็นเหรียญปั้มทรงรูปไข่ หูในตัว ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ นั่งขัดสมาธิราบเต็มองค์บนฐานอาสนะ ด้านล่างจารึกอักษรว่าธมฺมวิตกฺโกด้านหลังเหรียญเป็นหลังยันต์

     เหรียญสังฆาฏิ (นักกล้าม) ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2513 ประกอบด้วยเนื้อทองคำจำนวน 140 เหรียญ  เนื้อเงิน 350 เหรียญ  เนื้อนวโลหะ 145 เหรียญส่วนเนื้อทองแดงจำนวน 100,000 เหรียญ 

 

     ท่านธมฺมวิตกฺโกภิกขุ" หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "เจ้าคุณนรฯ" หรือพระยานรรัตนราชมานิตมีนามเดิมว่า ตรึก  จินตยานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ..2440 ที่บ้านใกล้วัดโสมนัสวรวิหาร กรุงเทพฯ เป็นบุตรของพระนรราชภักดี (ตรองจินตยานนท์ ) และนางนรราชภักดี (พุกจินตยานนท์) ศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนวัดโสมนัสฯ ชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร ชั้นอุดมศึกษาที่โรงเรียนข้าราชการพลเรือนหอวัง ได้รับประกาศนียบัตรในวิชารัฐศาสตร์ เมื่อจบการศึกษาแล้วได้เข้าซ้อมรบเสือป่าที่ค่ายหลวง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทอดพระเนตรและพอพระราชหฤทัย จึงโปรดเกล้าฯ รับสั่งชวนให้เข้ารับราชการในราชสำนัก นับแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านได้เข้ารับราชการเริ่มแรกในกรมมหาดเล็กหลวง แผนกตั้งเครื่องตำแหน่งมหาดเล็กวิเศษ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์พ..2475 และในระยะเวลาเพียง 9 ปี ท่านก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้ากรมห้องพระบรรทม มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยานรรัตนราชมานิต เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมพ.. 2465 ขณะที่มีอายุ 25 ปี และได้เป็นองคมนตรีในรัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคมพ..2467

     ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิตรับราชการ จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ขณะนั้นท่านมีทั้งฐานะทั้งทรัพย์สมบัติและโอกาสที่จะหาความเจริญในทางโลกต่อไปอย่างพร้อมมูล แต่ท่านได้สละทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วออกอุปสมบทเพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพเมื่อวันที่ 24 มีนาคมพ..2468 ณ วัดเทพศิรินทราวาสโดยมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญญาณวรเถระ) เป็นพระอุปัชฌาชย์ได้รับฉายาทางสมณเพศว่า "ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ" และท่านก็ได้ครองสมเพศตลอดมาจนถึงมรณภาพ

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Google.

Visitors: 341,934