เหรียญหลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูลวรวิหาร พ.ศ.2461 เนื้อทองแดง

หลวงพ่อธรรมจักรเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองชัยนาทมาแต่โบราณ

ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารวัดธรรมามูลต.ธรรมามูลอ.เมืองจ.ชัยนาท

เป็นศิลปะประยุกต์ช่วงสมัยเชียงแสนตอนปลายถึงสุโขทัยตอนต้นผสมกับสมัยอยุธยา

พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติประทับยืนบนฐานรูปดอกบัว

พระหัตถ์ขวาทรงยกขึ้นเสมอพระอุระหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ

เหรียญหลวงพ่อธรรมจักรรุ่นแรกจัดสร้างในปีพ..2461 พิธีพุทธาภิเษกใหญ่

ได้มีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนั้นเข้าร่วมพิธีกันหลายรูป

และหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าก็ได้รับนิมนต์เข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกด้วย

เหรียญหลวงพ่อธรรมจักรจัดสร้างด้วยกัน 2 เนื้อได้แก่

-เหรียญเนื้อเงิน

-เหรียญเนื้อทองแดง

ตำนานเล่าสืบกันมาแต่โบราณว่า...มีผู้พบพระพุทธรูปลอยน้ำตามแม่น้ำเจ้าพระยามาพร้อมกัน 3 องค์ได้แก่หลวงพ่อโสธร (วัดโสธรวรวิหารจ.ฉะเชิงเทรา) หลวงพ่อวัดบ้านแหลม (วัดบ้านแหลมจ.สมุทรสงคราม) และหลวงพ่อธรรมจักร (วัดธรรมามูลวรวิหารจ.ชัยนาท) บ้างกล่าวว่ามีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งคือหลวงพ่อวัดไร่ขิงลอยน้ำตามมาด้วยแต่สำหรับหลวงพ่อธรรมจักรนั้นเมื่อลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดธรรมามูลปรากฎว่าได้ลอยวนเวียนอยู่พระภิกษุและชาวบ้านจึงได้ทำพิธีอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดโดยนำเชือกพร้อมด้ายสายสิญจน์ผูกกับพระพุทธรูป 

แต่ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้จนกระทั่งตกเย็นจึงแยกย้ายกันกลับแต่ปรากฏว่าในขณะนั้นได้มีผู้พบเห็นพระพุทธรูปองค์ที่ลอยน้ำมานั้นได้มาประดิษฐานปิดขวางทางเข้าประตูวิหารวัดธรรมามูลซึ่งอยู่ที่บริเวณไหล่เขาจึงได้เรียกชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังให้ขึ้นไปดูซึ่งทำให้เกิดความแปลกใจและความศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อธรรมจักรจึงร่วมกันต่อเติมพระวิหารออกมาอีกหนึ่งช่วงรวมเป็น 3 ช่วงจากคำบอกเล่าเมื่อองค์หลวงพ่อประดิษฐานอยู่ได้ 3 วันก็ได้หายไปจากพระวิหารและกลับมาประดิษฐานดังเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งมีโคลนและจอกแหนติดเปื้อนมาด้วยชาวบ้านจึงนำโซ่มาผูกไว้เพื่อไม่ให้หลวงพ่อหายไปอีกต่อมามีชายต่างถิ่นล่องแพมาจากทางเหนือเพื่อตามหาพระพุทธรูปเมื่อมาถึงวัดธรรมามูลจึงได้พระพุทธรูปที่กำลังตามหาอยู่ขณะนั้นเป็นเวลาพลบค่ำชายผู้นั้นจึงได้อาศัยนอนอยู่ที่วัดเพื่อรอเวลาอัญเชิญองค์พลวงพ่อกลับไปประดิษฐานณวัดเดิมในเวลาเช้าแต่กลับฝันว่าหลวงพ่อไม่ขอกลับแต่จะขออยู่ที่วัดธรรมามูลวรวิหารครั้นรุ่งเช้าเขาจึงลาท่านสมภารเพื่อเดินทางกลับบ้านและได้ขอถอดเอา "จักร" ที่ฝ่าพระหัตถ์องค์หลวงพ่อกลับไปนับแต่นั้นมาหลวงพ่อก็ไม่หายไปไหนอีกเลยชาวบ้านจึงได้นำโซ่ออกและได้ร่วมกันสร้าง "จักร" ขึ้นมาใหม่โดยจัดงานสมโภชกันต่อเนื่องทุกปีจนถึงทุกวันนี้นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Google.

Visitors: 342,403